วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การปลูกมะนาวในท่อซิเมนต์

              กลาง ปี 2552   ผมและเพื่อนร่วมงาน ได้มีโอกาสไปเยี่ยมแปลงปลูกมะนาวในท่อซิเมนต์ ของนายทหาร นอกราชการ ยศ พันโท เป็นบุคคลที่รักอาชีพการเกษตร ทดสอบ ทดลองปลูกพืชหลายชนิด ลองผิดลองถูกมาโดยตลอด  เมื่อไปถึงแปลง เราได้พบกับเกษตรกร พันโทจรัญ หนูเนียม และทีมงานสำนักงานเกษตรอำเภอลานสกา ได้ทราบจาก พันโทจรัญ หนูเนียม ว่าทำเกษตรปลูกพืชมาแล้วหลายอย่างในแปลงปลูกนี้ ทั้งส้มเขียวหวาน กระท้อน มังคุด ก็ต้องเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เพราะที่ผ่านมาได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง ในส่วนของ ผลกำไร ความคุ้มทุน

             เมื่อช่วงปลายปี 2549 ผู้พันฯ ได้ทราบข้อมูลเรื่องมะนาวพันธุ์พิจิตร 1 ว่าเป็นพันธุ์ที่ต้านทานโรค มีผลดก ผลโต ให้น้ำหนักดี บังเอิญว่าผู้พัน ฯ อยากปรับเปลี่ยนการปลูกพืชในแปลงดังกล่าวเข้าช่วงความคิดพอดี จึงเดินทางไปดูงานที่จังหวัดพิจิตร  ได้เห็นมะนาวแล้วน่าสนใจมาก จึงได้ซื้อกิ่งพันธุ์มาปลูก 500 กิ่ง

manow_20

ได้มีโอกาสไปเยี่ยมแปลงปลูกมะนาวในท่อซิเมนต์ ของนายทหาร นอกราชการ ยศ พันโท เป็นบุคคลที่รักอาชีพการเกษตร ทดสอบ ทดลองปลูกพืชหลายชนิด ลองผิดลองถูกมาโดยตลอด  ในขณะที่เยี่ยมท่านในแปลงปลูกมะนาว ที่มีทั้งปลูกอยู่ในท่อ  ปลูกอยู่บนดินแบบทั่วไป ทำไมเป็นอย่างนั้นก็ได้รับคำบอกเล่าจาก  ท่านผู้พันจรัญ หนูเนียมว่า....ท่านทำการเกษตรปลูกพืชด้วยใจรักและชอบอาชีพมานานและทำปลูกมาแล้วหลายอย่างในแปลงปลูกนี้ ทั้งส้มเขียวหวาน กระท้อน มังคุด ก็ต้องเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เพราะที่ผ่านมาได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง

manow_19

ปลูกแทนพื้นที่มังคุดเดิมโดยการปลูกก็ทำตามที่ได้ศึกษาค้นคว้ามาคื่อ... ทำการลงปลูกในท่อซิเมต์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร สูง 50 ซ.ม. วางเรียงเป็นแถวห่างกัน 3X4 เมตร ตรงก้นท่อซิเมนต์นั้น  มีฝาปิดก็เป็นฝาของท่อซิเมนต์ขนาดเท่ากันนั้นวางรอง แต่ไม่โบกปูน และให้มีรูให้ระบายน้ำได้ ที่ต้องทำเช่นนั้นก็เพื่อป้องกันไม่ให้รากมะนาวเจริญหาอาหารลงดินข้างนอก  เพราะถ้ารากดูดน้ำ ดูดอาหารในดินปกติก็จะไม่สามารถควบคุมบังคับอะไรได้  หลังจากนั้นจัดวางระบบน้ำ แล้วเอากิ่งพันธุ์ลงปลูก

IMG_1441

ปัจจุบันปลูกไปแล้วทั้งหมดที่ซื้อมา  500 ต้น โดยปลูกลงดินด้วย 300 ต้น ปลูกในท่อซิเมนต์ 200 ต้น พันโทจรัญ หนูเนียม เล่าว่า ที่สนใจการปลูกมะนาวในท่อซิเมนต์ เนื่องจากจะสามารถบังคับน้ำเพื่อการออกดอกได้ง่ายกว่าปลูกลงดิน ท่านจึงมีความสนใจและศึกษาเรียนรู้ เพื่อต้องการบังคับให้มะนาวออกดอกออกผลนอกฤดูกาลปกติซึ่งราคาดีกว่ามาก  โดย...

manow_14

มีขั้นตอนการดำเนินการดังนี้
             1. การเตรียมดินปลูกนั้น จะใช้หน้าดิน 2 ส่วน ผสมกับปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก 1 ส่วน และเพิ่มโดโลไมท์เล็กน้อย ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันดี นำไปใส่ในวงบ่อซีเมนต์จนเต็ม

manow_09

              2. การนำกิ่งพันธุ์ลงปลูก เจาะหลุมตรงกลางวงบ่อซีเมนต์ให้ลึกพอประมาณ นำกิ่งพันธุ์มะนาวที่เตรียมไว้ (อาจเป็นกิ่งชำถุงหรือตัดตุ้มก็ได้) ลงปลูกกลบดินให้แน่น และปักไม้ผูกยึดลำต้นป้องกันลมโยกให้ดี

manow_08

              3. การให้น้ำ ถ้าฝนไม่ตกจะต้องรดน้ำทุกวัน วันละ 1-2 ครั้ง จะให้น้ำครั้งละน้อยๆ โดยเปิดสปริงเกลอร์ ใช้เวลาเพียง5 นาที ต่อครั้ง ถ้าให้น้ำมากกว่านี้ น้ำจะชะล้างเอาดินในท่อออกมาด้วย ทำให้ดินยุบตัวเร็ว

manow2

 

              4. การให้ปุ๋ย หลังจากปลูกจะต้องให้ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอทุกเดือน เดือนละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 ช้อนแกง ถ้าดินยุบตัวก็ต้องเติมดินที่ผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกให้ได้ระดับตามดิน เมื่อมะนาวมีอายุ 8 เดือน ให้ปุ๋ย สูตร 8-24-24 ต้นละ 1 ช้อนแกง

manow3

              5. การบังคับการออกดอก ประมาณเดือนสิงหาคม-กันยายน หลังจากให้ปุ๋ย สูตร 15-15-15 ประมาณ 1 ช้อนแกงให้น้ำพอปุ๋ยละลาย จึงงดการให้น้ำอย่างสิ้นเชิงเป็นเวลา 15-20 วัน แต่ถ้าฝนตกจะต้องหาพลาสติคคลุมโคนต้นทุกต้น

manow5

             เมื่อเห็นว่าใบมะนาวเริ่มเฉา จึงให้น้ำตามปกติ ให้ปุ๋ย สูตร 8-24-24 อัตรา 2 ช้อนแกง ต่อต้น ประมาณ 15 วัน มะนาวจะเริ่มแตกยอดอ่อนและออกดอกมาในคราวเดียวกัน ในช่วงระยะดอกจะต้องดูแลโดยการฉีดพ่นสารสะเดา หรือสารขับไล่แมลงอื่นๆส่วนในช่วงติดผลจะต้องฉีดพ่นสารกำจัดเชื้อราบ้างเหมือนกันแต่อยู่ในอัตราที่ปลอดภัย  และให้ปุ๋ย สูตร 15-15-15 อัตรา 1-2 ช้อนแกง ต่อต้น ทุก 20 วัน มะนาวที่ติดผลอ่อนในช่วงเดือนพฤศจิกายน จะเก็บเกี่ยวได้ประมาณเดือนเมษายน 2551 ซึ่งคาดว่าจะขายได้ราคาดีแน่นอน เพราะจากสถิติที่ผ่านมาทุกปี มะนาวในท้องตลาดจะขาดแคลน มีการซื้อขายกันอยู่กิโลกรัมละ 80-120 บาท ซึ่งมะนาวพันธุ์พิจิตร 1 จะมีขนาดผลค่อนข้างโต น้ำหนักประมาณ 12-15 ผล ต่อกิโลกรัม

manow6

            ในปีแรกท่านเล่าว่าสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ประมาณ 1,500 กิโลกรัม (ต้นที่ให้ผลแล้วประมาณ 50 ต้น) ข้อดีของการทำสวนมะนาวรูปแบบนี้ก็คือ การดูแลจัดการง่าย ใช้แรงงานน้อย ให้ผลผลิตเร็ว 
            พันโทจรัญ ฯ ยังกล่าวว่า ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน สวนของท่านจะเป็นแปลงเรียนรู้ทางการเกษตรของคนในชุมชนอยู่ตลอด จะไม่มีการปกปิดข้อมูลหรือเทคนิคที่มี รวมทั้งการแบ่งปันปัจจัยการผลิตที่พอจะให้ ได้แก่ เพื่อนบ้าน และตนจะเป็นผู้ประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นสถานีพัฒนาที่ดิน กรมวิชาการเกษตร สำนักงานเกษตรอำเภอ สำนักงานเกษตรจังหวัด ฯลฯ ที่จะเข้ามาจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอดความรู้ สาธิต ขณะนี้ตนเองเป็นคณะกรรมการศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบลท่าดี เป็นอาสาสมัครเกษตรของอำเภอลานสกา และเป็นจุดเรียนรู้ทางการเกษตรด้านไม้ผล เป็นต้น   

SIMG1467

            นับว่าเป็นความตั้งใจดีของคนที่มีความพร้อมทั้งภูมิปัญญา ฐานะ และจิตใจที่เป็นกุศล ที่ใช้เวลาหลังเกษียณอายุราชการ  ทำประโยชน์ให้แก่ตนเอง ครอบครัว และชุมชนไปพร้อมๆ กัน นอกจากจะได้งาน ยังได้ออกกำลังกายทุกวัน และได้ความเพลิดเพลินใจ จึงส่งผลให้พันโทจรัญ หนูเนียม วัย 70 ปี ยังคงมีสุขภาพกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีโรค และหนุ่มอยู่ตลอดเวลา อย่างไม่น่าเชื่อ
            ท่านใดสนใจที่จะร่วมศึกษาหรือชมแปลง ติดต่อ พันโท จรัญ หนูเนียม ได้ที่ บ้านเลขที่ 63/6 หมู่ 7 ต.ท่าดี อ.ลานสกา  จ.นครศรีธรรมราช

โทร.081-9681438 ได้ทุกวัน




กลับไปยังหน้าศูนย์รวม